เที่ยวบึงกาฬ ในวันฝนพรำ
เที่ยวบึงกาฬ ในวันฝนพรำ (คู่หูเดินทาง)"คอลัมน์คู่หูพาเที่ยว" ฉบับนี้ เราจะนำเสนอถึงจังหวัดน้องใหม่ "บึงกาฬ" จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วไปยังไม่รู้จักกันมากนัก ด้วยเพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สุดของประเทศ ระยะทางจึงค่อนข้างไกลถึงไกลมาก ใช้เวลาเดินทางเกือบ 13 ชั่วโมง
"บึงกาฬ" ได้รับการรับรองเป็นจังหวัดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมานี้ จากเดิมเป็นเพียงอำเภอหนึ่งของจังหวัดหนองคาย แต่ด้วยจำนวนประชากร และลักษณะพิเศษของพื้นที่เป็นแนวยาวทอดตามแม่น้ำโขง จึงมีผลต่อการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพราะพื้นที่สามารถเชื่อมผ่านไปยังประเทศต่าง ๆ ในเขตอินโดจีน จึงมีอนาคตที่ดีที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดได้ ที่สำคัญยังเป็นผลดีต่อการให้บริการแก่ประชาชนที่อยู่ไกลจากตัวเมืองจังหวัดหนองคาย ที่เดิมเวลาเข้ามาติดต่อราชการ หรือทำธุระในตัวจังหวัด ต้องถึงขั้นนอนค้างอ้างแรมกันเลยทีเดียว
ด้วย "บึงกาฬ" เป็นพื้นที่ที่มีฝนตกชุ่มชื้น อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ต่างจากพื้นที่อื่น ๆ ในภาคอีสานอย่างประหลาด ภูมิประเทศอยู่ในตำแหน่งดี ใกล้อ่าวตังเกี๋ยของประเทศเวียดนามมากที่สุด จึงมีพายุฝนจากอ่าวตังเกี๋ยพัดเข้ามาถึงเกือบตลอดทั้งปี รวมทั้งได้รับอิทธิพลความชุ่มชื้นจากป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของประเทศลาวตลอดแนวลำน้ำโขง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นที่จังหวัดบึงกาฬไม่เคยแล้งเลย สังเกตได้จาก ห้วย หนอง คลอง บึง กุด(ลำนำโค้ง) ที่มีอยู่มาก โดยปัจจุบันได้มีการนำต้นยางพาราไปปลูกให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ซึ่งได้ผลดีเป็นอย่างมาก
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดบึงกาฬมีอยู่มาก ทั้งจากธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา อาทิ วัดอาฮงศิลาวาส , แก่งอาฮง, วัดภูทอก, วัดสว่างอารมณ์, ตลาดนัดไทย-ลาว, บึงโขงหลง, เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว, น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกตาดกินรี, หาดทรายขาว, หนองกุดทิง ฯลฯ ซึ่งตอนที่ทีมงานเดินทางไปทำคอลัมน์ เป็นช่วงมรสุมเข้า ฝนตกทุกวัน ทุกเวลา ทำให้เราเก็บภาพความงามงดงามและเรื่องราวมาได้เพียงไม่กี่สถานที่เท่านั้น แต่รับรองว่าแต่ละที่ที่นำเสนอนั้น ห้ามพลาดเด็ดขาด!
การเดินทางมายังจังหวัดบึงกาฬ จะผ่านจังหวัดสระบุรี นคราราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ ให้ขับรถมุ่งหน้าตรงมายังอำเภอเมืองบึงกาฬก่อน เพราะกว่าจะถึงก็คงจะพลบค่ำแล้ว ติดต่อหาที่พักหลับนอน พักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทาง เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้มีแรงออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกัน...
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการเดินเล่น ช้อป ชม ชิม กันที่ ตลาดนัดไทย-ลาว บริเวณถนนเลียบแม่น้ำโขง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตลาดสดสักเท่าไหร่ โดยมีต้นก้ามปูต้นใหญ่มากๆ เป็นจุดเริ่มต้น ในทุกเช้าวันอังคารและวันศุกร์ จะมีพ่อค้า-แม่ค้าชาวลาวข้ามแม่น้ำโขง เอาของมาขายร่วมกับพ่อค้า-แม่ค้าไทย ในตลาดนัดแห่งนี้ ซึ่งมีสีสันสร้างความสนุก และความแปลกตาได้ไม่น้อย เพราะมีของป่าและของหายากจากฝั่งลาว ที่บางครั้งเราไม่เคยเห็นมาก่อน มาวางขายมากมาย อย่างเช่น จิ้งจกเก้าหางไว้ทำเครื่องรางของขลังให้หนุ่มรักสาวหลงพืช และว่านสมุนไพรต่าง ๆ อาหารสดพวก ปลา ปู กุ้ง กบ เขียด ก็มีให้เห็นอยู่หลายร้านใส่กันมาเป็นเข่ง มีผัก ผลไม้สด ๆ หลายชนิด ทั้งผักกระเฉดลำต้นอวบ ๆ ฝัก แฝง มะละกอ หน่อไม้ ทุเรียน ลำไย หรือของบางอย่างที่ชื่อไม่คุ้นหู แต่น่ารับประทานก็มีมาก
http://travel.kapook.com/view31467.html




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น