วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เที่ยวตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำแห่งใหม่ ใหญ่สุดในอยุธยา

หลังจากผ่านมหาอุทกภัย 54 ตอนนี้ตลาดน้ำอโยธยาได้กลับมาเปิดตามปกติแล้วนะครับ โดยเปิดเมื่อ 25 ธันวาคม 54 ที่ผ่านมา ผมได้ไปเดินเล่นมาแล้ว ร้านค้าตอนนี้เปิดประมาณ 90% ส่วนการแสดงยังมีเหมือนเดิมครับ ชมฟรี เข้าฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

ในรูปด่านล่างจะเห็นระดับน้ำที่เคยท่วมอยู่ตรงกลางกำแพง เป็นคราบขาวๆ ยังไงก็แวะไปเที่ยว ซื้อของ ให้กำลังแม่ค้า ให้กำลังใจคนไทยด้วยกันนะครับ

เรียนนักท่องเที่ยวทุกท่านที่ต้องการจะไปตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำเปิดให้บริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม สามารถไปเที่ยวกันได้ทุกวัน และมีการแสดงทุกวันครับ

แนะนำสำหรับท่านที่มีเวลาว่างในช่วงวันธรรมดาก็สามารถมาได้ เพราะที่จอดรถจะมีมาก คนไม่เยอะ เดินสะดวก ที่นั่งรับประทานอาหารก็มีมากมาย แต่ถ้ามาในวันหยุดตามเทศกาลต่างๆ หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะมาก อาจจะไม่ค่อยสะดวก แต่แม่ค้าส่วนใหญ่จะแต่งชุดไทยในวันหยุดเป็นส่วนใหญ่จะได้บรรยากาศของความ เป็นไทยมากกว่า (ย้ำ.. ตลาดเปิดทุกวัน)

รีวิวตลาดน้ำอโยธยา จะมี 2 Version นะครับ Version 1 ไปก่อนที่จะตลาดน้ำอโยธยาจะเปิด (อย่างไม่เป็นทางการ) ส่วน Version 2 ไปหลังจากที่ตลาดน้ำอโยธยาเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ไป 2 ครั้งก็ได้บรรยากาศที่ต่างกันไปครับ

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

อิ่มอร่อยคลายร้อนที่เกาะเกร็ด

    

        เกาะเกร็ด ... เกือบ 300 ปี แล้วที่เกาะเล็กๆ แห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นจากการขุดคลองลัดเจ้าพระยาที่คดโค้ง และกว่า 200 ปี ที่ชาวมอญได้มาอาศัยตั้งรกราก สำหรับคนชอบชิมช็อป เกาะเกร็ด เป็นอีกเป้าหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด




        การเดินทางไป เกาะเกร็ด ไปไม่ยาก แค่นั่งรถมาลงท่าน้ำปากเกร็ด จ. นนทบุรี แล้วจะนั่งรถมอไซต์รับจ้างหรือเดินเล่นไปที่ท่าน้ำวัดสนามเหนือ ลงเรือข้าฟากไปขึ้น เกาะเกร็ด คนละ 2 บาท ตรงท่าน้ำวัดปรมัยยิกาวาส เข้าไปไหว้พระมหารามัญเจดีย์ ชมเจดีย์มุเตาเอียงอยู่ริมน้ำ หรือจากวัดปรมัยฯ ใครจะเดินเที่ยว เดินกิน เดินช็อป หรือขี่จักรยานชมความงามรอบเกาะเกร็ด เช่าคันละ 40 บาทต่อวันเท่านั้น ไปชมวัดรอบๆ เกาะ หรือลัดเลาะตรอกซอยซอยไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะเกร็ด ขนม อาหารพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรม ก็สามารถเที่ยวได้อย่างจุใจ

          ที่นี่เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น มีเวลาแวะไปกันนะครับ เที่ยวเกาะเกร็ด รับรองสนุกไม่มีเบื่อแน่นอน

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

      ในเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีผู้ให้ความหมายไว้มากมาย ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า...

         การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หมายถึงการใช้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยความชาญฉลาดและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ให้มากที่สุดและมีระยะเวลาในการใช้งานยาวนานที่สุดสังคมไทยเราแต่โบราณก็ได้มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ อาทิ เกษตรกรรมได้มีการเพาะปลูก ทำนา โดยใช้วัว ควายเป็นแรงงานในการไถพรวนและเลี้ยงตามไร่ตามท้องนา ซึ่งก็ท่ากับว่าเป็นการเพิ่มปุ๋ยให้แก่พื้นดินจากมูลสัตว์เหล่านั้น ในขณะเดียวกันคนในสมัยก่อนจะไม่มีการจับปลาในวันพระตามสระน้ำในวัด ยิงนก ล่าสัตว์ ในบริเวณป่าตามวัด เป็นต้น
 

ที่มา  http://www.thaigoodview.com/node/49437

Bangkok Balcony Buffet Bai Yok Sky




Don't forget to make a reservation ^^

ดับร้อน....กัน

1. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพราะร่างกายของเราต้องการน้ำไปช่วยป้องกันการคายน้ำออก ในวันที่อากาศร้อนสุดๆ จึงต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ให้มั่นใจว่าร่างกายเราไม่ขาดน้ำ
กินแตงโม แตงโมเป็นผลไม้ที่ช่วยรักษาความเย็นในร่างกาย ถ้าแช่เย็นได้ยิ่งดี
และสุดท้ายก็คือ การอาบน้ำ จะได้สดชื่น

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

โฆษณาเที่ยวไทยครึกครื้น - พี่เบิร์ด

เที่ยวชม ชิม ช้อป 3 ตลาดเก่าสุพรรณบุรี

เที่ยวชม ชิม ช้อป 3 ตลาดเก่าสุพรรณบุรี

        ตลาดสามชุก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ติดกับที่ว่าการอำเภอสามชุก เป็นชุมชนชาวจีนเก่าแก่ที่ยังคงสภาพบ้านเรือน และตลาดแบบดั้งเดิม ในอดีตชาวบ้านจะนำของพื้นเมืองมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกับพ่อค้าชาวเรือ ร้านค้าหลายร้านในตลาดสามชุก ยังคงเอกลักษณ์บ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ แม้จะเก่าแก่นับร้อยปี แต่ก็เป็นความเก่าที่ดูไม่น่าเบื่อ

          ย้อนกลับไปเมื่อร้อยกว่าปีนั้น การค้าขายในตลาดสามชุกคึกคัก พลุกพล่านด้วยผู้คน ทั้งคนขายและคนซื้อ จนเมื่อมีการตัดถนนผ่านสามชุก ส่งผลให้ตลาดสามชุกเริ่มซบเซาลง แต่ด้วยวิถีชีวิตของชุมชนที่ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเวลาจะผ่านมานับร้อยปี ชาวตลาดสามชุกจึงได้ร่วมกันปรับปรุง ฟื้นฟูสถาปัตยกรรมไม้ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งเรียนรู้สำหรับชุมชน


 ตลาดศรีประจันต์ แต่เดิมคือชุมชนริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี (ท่าจีน) ฝั่งตะวันออก เป็นแหล่งค้าขายสินค้าที่ผู้คนทั่วไปมักจะมาแวะซื้อข้าวของเครื่องใช้ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง ผักสด ปลาเป็น หมากพลู ผลไม้ เสื้อผ้า และของใช้จำเป็นจากที่ต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ จนทำให้กลายเป็นตลาดย่อม ๆ

          นามว่าศรีประจันต์ แต่เดิมมีผู้เข้าใจว่าเป็นการนำชื่อตัวละครในเรื่องขุนช้างขุนแผนมาตั้ง อันที่จริงคำว่า "ศรีประจันต์" มาจากคำว่า "ศรี" แปลว่า ความดี ความสมบูรณ์ และ "ประจันต์" แปลว่า กั้น หรือ ปลายแดน เมื่อรวมจึงแปลว่า "เขตอันสมบูรณ์"

          ตลาดเก่าศรีประจันต์มีความสำคัญอย่างหนึ่งคือ เป็นสถานที่เกิดของ ท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระสงฆ์ไทยที่มีชื่อเสียงในระดับสากล เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลจากองค์การยูเนสโก สาขาสันติภาพ ได้รับการยกย่องว่าเป็น "คนดีศรีประจันต์" และเป็นปราชญ์แห่งพระพุทธศาสนา

          บ้านท่านเจ้าคุณฯ ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในสภาพเดิม เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ลักษณะเป็นบ้านไม้ห้องแถว 2 ชั้น จัดแสดงภาพถ่ายในอดีตและอัตชีวประวัติของท่านเจ้าคุณฯ รวมทั้งเก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน โดยมีป้ายบรรยายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ นอกจากนั้นยังเก็บรักษาหนังสือตำราต่าง ๆ ไว้อีกมากมาย





 ตลาดเก้าห้อง ร่องรอยรุ่งเรืองเรื่องการค้า

          คำว่า "เก้าห้อง" นำมาจากชื่อบ้านเก้าห้อง อันเป้นบ้านของขุนกำแหงฤทธิ์ ตั้งอยู่ริมน้ำข้างวัดลานคา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาดเก้าห้อง มีลักษณะเป็นบ้านเรือนไทยฝาประกบ ใต้ถุนสูง ภายในบ้านแบ่งออกเป็น 9 ห้อง มีศาลปู่ศาลย่าเป็นที่เคารพบูชา

          ตลาดเก้าห้อง เป็นชุมชนร้านตลาด อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านเก้าห้อง ตลาดนี้เคยคึกคักอยู่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน โดยมีบทบาทเป็นศูนย์กลางการค้าขายของชาวบ้านในทุ่งฟากตะวันตกของบางปลาม้า ทั้งยังเป็นทางผ่านของเรือเมล์โดยสาร ระหว่างสุพรรณบุรี-งิ้วราย

          ตลาดเก้าห้อง ก่อสร้างโดยชาวจีนชื่อฮ่อ ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายและรับเหมาก่อสร้างจนร่ำรวย จึงต่อแพค้าขายอย่างถาวรอยู่หน้าบ้านเก้าห้อง ต่อมานายฮงเปลี่ยนชื่อเป็น นายบุญรอด เหลียงพานิชย์ เพื่อความสะดวกในการค้าขาย ด้วยกิตติศัพท์ความร่ำรวยของนายบุญรอดล่วงรู้ไปถึงหมู่โจร จึงถูกบุกปล้นทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง แต่ทางอำเภอได้ออกสกัดจับโจรได้ทั้งหมดในวันรุ่งขึ้น พร้อมนำทรัพย์สินมาคืน ต่อมานานบุญรอดได้สร้างตลาดเพื่อค้าขายบนบก ชาวบ้านเรียกตลาดนี้ว่า "ตลาดเก้าห้อง" ซึ่งคำว่าเก้าห้องนำมาจากชื่อบ้านเก้าห้องนั่นเอง

http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=8149343704063857739#editor/target=post;postID=5755055952038159346